รับซื้อเพชร

ผู้เขียน หัวข้อ: ชะเอมเทศ สรรพคุณเเละประโยชน์  (อ่าน 1 ครั้ง)

มกราคม 17, 2019, 05:30:01 am
  • จอมพล
  • ************
  • กระทู้: 22894
  • คะแนนโหวต: 0



ชะเอมเทศ
ชื่อสมุนไพร ชะเอมเทศ
ชื่ออื่นๆ/ชื่อท้องถิ่น กันเฉ่า (จีนกลาง) , กำเช่า (จีนแต้จิ๋ว)
ชื่อวิทยาศาสตร์ Glycyrrhiza  glabra   L.  และ  Glycyrrhiza uralensis Fisch.ex DC.
ชื่อสามัญ   Licorice Root , Sweet Root , Russian licorice, Spanish licorice, Chinese licorice
วงศ์   LEGUMINOSAE - PAPILIONOIDEAE
ถิ่นกำเนิด

ชะเอมเทศ (G.glabra) เป็นพืชท้องถิ่นในประเทศแถบกลางรวมทั้งตะวันตกเฉียงใต้ของทวีปเอเชีย ยกตัวอย่างเช่น จีน . ประเทศปากีสถาน , อีหว่าน , อัฟกานิสถาน รวมถึงกรุ๊ปประเทศแถบเมดิเตอร์เรเนียน โดยมีการปลูกบริเวณอ่าวเอดิเตอร์เรเนียน ในทวีปแอฟริการวมทั้งทางตอนใต้ทวีปยุโรปและก็ในประเทศสาธารณรัฐประเทศอินเดีย ก็มีการปลูกเช่นเดียวกัน ส่วนประเทศที่ส่งออกชะเอมเทศรายใหญ่ของโลก คือ ประเทศสหพันธรัฐ รัสเซีย สาธารณรัฐอิสลามประเทศอิหร่านสาธารณรัฐประเทศตุรกี และเมืองจีน ส่วนชะเอมเทศ (G. uralansis) เป็นพืชท้องถิ่นในแถบตอนเหนือสาธารณรัฐพลเมือง จีนดูโกเลีย แล้วก็ไซบีเรีย โดยยิ่งไปกว่านั้นในประเทศในพบได้บ่อยในบริเวณเฮยหลงเจียง จี้หลิน เหลียวหนิง เหอเป่ย ซานตง ซานซี มองดูกิเลียใน ส่านซี กันสู้ ชิงไห่ สิงเจียง ซึ่งก็นับเป็นชะเอมเทศที่ใช้กันอย่างมากมายเช่นเดียวกัน
ลักษณะทั่วไป
ชะเอมเทศเป็นพืชมีอายุยาวนานหลายปี โดยถูกจัดเป็นไม้พุ่มสูงราว 1 เมตร มีรากขนาดใหญ่หลายชิ้นลำต้นมีขนสั้นๆปลายมีต่อมเหนียว
ใบเป็นใบประกอบแบบขนนก ออกสลับกัน มีใบย่อย 9-17 ใบ ก้านใบย่อยสั้นมากมายแผ่นใบรูปกลมรีหรือรูปไข่ปนขอบขนาน กว้าง 1.5-3 ซม. ยาว 2-5.5 เซนติเมตรปลายใบแหลม ฐานใบกลมมน มีขนสั้นๆทั้งสองด้าน
ดอกออกเป็นช่อตามซอกใบ ยาว 5-12 เซนติเมตร มีดอกย่อยจำนวนหลายชิ้นติดกันหนาแน่น ดอกย่อยรูปดอกถั่ว สีม่วงอ่อนถึงขาว
ผลเป็นฝักกลมงอเหมือนเคียว มีขนปกคลุม ด้านในมีเม็ด 2-8 เม็ด รูปกลมแบนหรือรูปไต สีดำเป็นเงา
ราก มีลักษณะเป็นท่อนกลมยาวมีลักษณะแตกต่างกันตามสายพันธุ์ ได้แก่ Spanish liquorice (G. glabra var. typical Regal & Herd), Russian liquorice (G. glabra var. glandullifera (Wald et Kit) Regal & Herd) และก็ Chinese licorice (G.uralensis Fisch.) โดยแต่ละสายพันธุ์มีลักษณะดังต่อไปนี้
Spanish liquorice ลักษณะรากเป็นรูปทรงกระบอก ขนาดต่างๆกัน เปลือกนอกของเปลือกมีสีน้ำตาลถึงน้ำตาลดำ มีรอยย่นตามทางยาว บางครั้งก็อาจจะพบหน่อต้นที่เหง้าและรากแขนงที่ราก รากที่ปอกเปลือกแล้วจะมีสีเหลืองประกอบด้วยเส้นใย เนื้อรากมีสีเหลืองเห็นชั้นเยื่อแคมเบียมเป็นวง
Russian liquorice ลักษณะรากเป็นรูปทรงกระบอก ความยาว 15 – 40 ซม.เส้นผ่านศูนย์กลาง 1 – 5 เซนติเมตร รากขนาดใหญ่ อาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 10 ซม. ผิวนอกของเปลือกมีสีม่วงน้ำตาล รากที่ปอกแล้วจะมีสีเหลือง มีเส้นใยเนื้อรากมีสีเหลืองมองเห็นชั้นเยื่อแคมเบียมเป็นวง
Glycyrrhiza uralansis Fisch. ลักษณะรากเป็นทรงกระบอก ความยาว 20-100 เซนติเมตร เส้นผ่านศูนย์กลาง 0.6-3.5 เซนติเมตรอาจจะมีส่วน cork หรือ ไม่มีก็ได้ เปลือกนอกของเปลือกมีสีน้ำตาลปนแดง ถึงน้ำตาลเทา มีรอยย่นตามยาว บางครั้งก็อาจจะเจอรากกิ่งก้านสาขาที่ราก รากที่ปอกเปลือกแล้วจะมีสีเหลืองประกอบด้วยเส้นใย เนื้อรากมีสีเหลือง เห็นชั้นเนื้อเยื่อแคมเบียมเป็นวง
 
การขยายพันธุ์
ชะเอมเทศสามารถแพร่พันธุ์ได้ด้วย การใช้เมล็ด โดยมีวิธีการเช่นเดียวกับการขยายพันธุ์โดยใช้เมล็ดของพืชชนิดอื่นๆส่วนสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับในการปลูกชะเอมเทศนั้น โดยธรรมดาแล้ว ชะเอมเทศเป็นพืชที่ชอบเข้ารับแสงสว่าง ทนร้อนแล้วก็ทนความแล้ง ชอบดินที่แห้งแล้งมีสีน้ำตาล มีธาตุแคลเซียมรวมทั้งเป็นดินเค็มอ่อนๆชั้นดินหนาแล้วก็ลึก สามารถระบายน้ำได้ดี เจริญเติบโตเจริญรอบๆฝั่งน้ำที่มีลักษณะดินผสมทราย ไม่อาจจะเจริญเติบโตได้บริเวณหาดที่มีดินเค็มมากมาย หรือเป็นดินด่าง โดยชะเอมเทศจะมีอายุการเก็บเกี่ยวโดยประมาณ 3 ปี
องค์ประกอบทางเคมี
สาระสำคัญที่เจอในชะเอมเทศ ตัวอย่างเช่น สารกลุ่ม triterpene saponins : 4 – 24% เป็นต้นว่าglycyrrhizin (หรือ glycyrrhizic acid หรือ glycyrrhizinc acid) ในจำนวน 5 – 9% และ 24 – hydroxyglyrrhizin สารเหล่านี้จะมีความหวานมากยิ่งกว่าน้ำตาล 50 และ 100 เท่าเป็นลำดับ รวมทั้งสารที่อยู่ในรูป aglycone (glabranin A
และ B, glycyrrhetol , glabrolide , isoglabroline)
glycyrrhizinc acid liquiritigenin
herniarin stilbenes
glabrene
สารกรุ๊ป flavonoids: flavones, isoflavonoids, chalcones, liquiritigenin, liquirtin, isoliquiritigenin, isoliquiritin , formononetin , glabrone , neoliquiritin, neoisoliquirtin,
licuroside, hispaglabridin A รวมทั้ง B , licochalcone B, isobavachin, sigmoidin B1
สารกรุ๊ป coumarins : herniarin, umbelliferone
สารกลุ่ม stibenes: gancaonin R
สารกลุ่มอื่นๆ: gums รวมทั้ง wax
นอกนั้นG.glabrn L. ยังประกอบด้วยสารกรุ๊ป flavonoids และisoflavonoids อื่นๆอย่างเช่น sapinaretin, vitexin, pinocembrin, prunetin, glabranin, glabrene, glabridin, glabrol , kanzonol T , kanzonol W-Z , และสารกรุ๊ปcoumarins อื่นๆเช่น kanzonol U, kanzonol V
ส่วน G.uralansis ประกอบด้วยสารกลุ่ม flavonoids และisoflavonoids อื่นๆยกตัวอย่างเช่น licobichalcone , licocbalcone , licochalcone A , echinatin , licoflavone A , licoricone , isoliciflavonol , ononin , สารกรุ๊ป coumarins อื่นๆดังเช่นว่า glycyrol, isoglycyrol , glycycoumarin , licopyranocoumarin, สารกรุ๊ป triterpene saponins อื่นๆดังเช่นว่าuralsaponin A,B, uralenolide, licorice saponin A3, licorice saponin C2, licorice saponin D3, licorice saponin E2, สารกรุ๊ป pterocarpenes (glycyrrhizol A,B) สารกลุ่มอื่นๆอย่างเช่น 3-(p-hydroxyphenyl) propionic acid, (3R) – vestitol, 4-hydroxy-guaiacol apioglucoside
 
คุณประโยชน์ /สรรพคุณ
ในตอนนี้มีการใช้ประโยชน์ของชะเอมเทศ คือ รากชะเอมเทศมีสารสำคัญคือสาร Glycyrrhizin (Glycyrrhizic acid หรือ Glycyrrhizinic acid) รวมทั้งสาร 24-hydroxyglyrrhizin โดยสารกลุ่มนี้เป็นสารที่ให้ความหวานมากกว่าน้ำตาลทรายราวๆ50-100 เท่า จึงถูกนำมาใช้เพื่อแต่งรสชาติอาหาร ใช้แต่งรสหวานในขนมแล้วก็ทอฟฟี่ ใช้แต่งกลิ่นรสยาให้หวานรวมทั้งช่วยกลบรสขมของยาต่างๆแล้วก็ชะเอมเทศยังสามารถนำมาใช้เป็นไวต์เทนนิงจากธรรมชาติ ขึ้นรถสกัดที่ได้จากรากนั้นมีลักษณะเด่นในการช่วยลดความเข้มของเม็ดสี ลดฝ้ากระบนใบหน้า ช่วยปรับผิวหน้าสว่างกระจ่างขาวใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ แล้วก็ช่วยลดและต่อต้านการอักเสบของผิว จึงสามารถนำมาใช้ตอบแทนสารเคมีที่ช่วยปรับผิวหน้ากระจ่างขาวสวยใสได้ และยังไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงต่อผิวหน้าและไม่นำไปสู่เป็นสิวตันอีกด้วย
ยิ่งกว่านั้นชะเอมเทศมีคุณประโยชน์ช่วยสร้างความชุ่มชื้นให้กับลำคอรวมทั้งกล่องเสียง เพราะชะเอมเทศนั้นจะช่วยกระตุ้นการผลิตสารหล่อลื่นในรอบๆคอเหนือกล่องเสียงได้
ส่วนสรรพคุณทางยาของชะเอมเทศกล่าวว่า คุณประโยชน์ยาไทย ใช้ขับเลือดเน่า บำรุงหัวใจใช้กระชุ่มกระชวย แก้กำเดา แก้ไอ ทำให้เปียกคอ เป็นยาระบายอ่อนๆชะเอมเทศใช้ปรุงแต่งรสยาให้รับประทานง่ายโดยใช้เป็นตัวยาผสานให้ตัวยาอื่นๆในตำรับสามารถเข้ากันได้ และช่วยให้ตัวยาหลักออกฤทธิ์เร็วขึ้นและก็ช่วยลดพิษ หรืออาการข้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้นเนื่องมาจากยาได้ นอกจากนั้นยังช่วยทำให้รสยาดียิ่งขึ้น รวมทั้งใช้เป็นยาอายุวัฒนะ โดยตามสรรพคุณยาไทยยังสามารถแยกคุณประโยชน์จากส่วนต่างๆของชะเอมเทศได้ คือ เปลือกของราก จะมีเป็นสีแดง แล้วก็มีรสหวานใช้เป็นยาบำรุงกำลัง ทำให้คลื่นเหียนอาเจียน อ้วก ใบทำให้เสลดแห้ง และก็เป็นยารักษาดีทุพพลภาพ ดอกใช้รักษาอาการคัน และรักษาพิษโรคฝีดาษ ผลจะมีรสหวาน ใช้เป็นยาบำรุงกำลัง รวมทั้งอาการคอแห้ง ทำให้ชุ่มชื้น รากจะมีรสชุ่ม ใช้เป็นยาบำรุงปอด ขับเลือดที่เน่าในท้อง รักษาพิษยาหรือพืชพิษต่างๆรักษาอาการเบื่อข้าว อ่อนเพลียจากการ ทนทุกข์ทำงานหนัก ปวดท้อง ไอจับไข้ สงบประสาท บำรุงปอด ใช้รากสดรักษาอาการเจ็บคอ เป็นแผลเรื้อรัง ระบบการย่อยอาหารไม่ดี หรืออาหารเป็นพิษ และก็รักษากำเดาให้เป็นปกติ รากแห้งของพืชชนิดนี้ใช้ทำยาระบายอ่อนๆหรือใช้แต่งรส
ส่วนในประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนชะเอมเทศจัดเป็นสมุนไพรที่มีความสำคัญรองจากโสม และก็เป็นสมุนไพรที่ใช้มากที่สุดในประเทศ จะเห็นได้จากตำรับยาแผนโบราณจีนกว่าครึ่งเดียวมีชะเอมเป็นส่วนประกอบ สรรพคุณยาจีน โดยในสรรพคุณของจีนระบุว่า ชะเอมเทศมีรสหวาน ฤทธิ์ปานกลาง มีสรรพคุณเป็นยาแก้โรคกระเพาะ ช่วยสำหรับในการย่อยของกินแก้ไอ ทำให้ชุ่มคอ แก้อาการใจสั่น และโรคลมชัก
นอกเหนือจากนี้มีการศึกษาวิจัยพบว่า ส่วนของรากชะเอมเทศมีสารสำคัญที่ชื่อ Glabridin มีรายงานว่ามีฤทธิ์ยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ tyrosinase ซึ่งเกี่ยวโยงกับวิธีการสร้างเม็ดสีของผิว ทำให้ผิวแจ่มแจ้งใน ลดลางเลือนริ้วรอย และจุดด่างดำได้
ต้นแบบ / ขนาดการใช้
นำชะเอมเทศไปคั่วให้เหลืองกรอบ มีกลิ่นหอมนำไปชงน้ำ จะช่วยแก้อาการชักช่วยสงบประสาท ทำให้นอนก้าวหน้า ถ้าเกิดมีลักษณะอาการร้อนในหิวน้ำ ชะเอมเทศนำไปต้มกับน้ำจับเลี้ยงแล้วก็ใช้ดื่มจะช่วยเสริมคุณประโยชน์ในการระบายความร้อนและก็พิษร้อนในร่างกายออกได้ รักษาอาการเส้นโลหิตขอดและอาการปอดบวม โดยใช้ชะเอมเทศ 50 กรัม ต้มน้ำแบ่งกินก่อนรับประทานอาหารวันละ 3 ครั้ง รักษาอาการตัวเหลือง โดยใช้สารสกัดชะเอมเทศครั้งละ 15-20 มิลลิลิตร วันละ 3 ครั้ง พบว่าอาการตัวเหลืองจะหายเป็นปกติโดยใช้เวลาประมาณ 13 วัน ใช้ข้างนอกรักษาอาการอักเสบรอบๆผิวหนัง ผิวเป็นผื่นแดงและก็คัน หรือเป็นสะเก็ด ใช้น้ำสุกชะเอมเทศล้างก็ช่วยลดอาการดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นนั้นได้
การศึกษาเล่าเรียนทางเภสัชวิทยา
ฤทธิ์ลดความดันเลือด สารสกัดแอลกอฮอล์มีฤทธิ์ลดความดันเลือด ซึ่งสาระสำคัญคือ glycycoumarin, glycyrin, glycyrin, dehydroglyasperin C แล้วก็ D และก็เมื่อนำตำรับยาซึ่งประกอบด้วยสารสกัดรากชะเอมเทศกับสารสกัดหนอนตายอยาก และน้ำมันกานพลู ฉีดเข้าช่องท้องหนูขาวที่รั้งนำให้เกิดการไอด้วยแอมโมเนีย พบว่าส่งผลหยุดการไอได้ แล้วก็ยังมีฤทธิ์ยับยั้งเชื้อ Staphylococcus aureus, Streptococcus pneumonia และก็ b-Streptococcus group B เมื่อทดสอบตำรับที่มีชะเอมเทศเป็นส่วนประกอบ ขนาด 1กรัม/กิโลกรัม ทดสอบในหนูตะเภาซึ่งได้รับควันของบุหรี่ที่รั้งนำให้เกิดอาการไอด้วย capsaicin พบว่าสามารถระงับการไอได้
ฤทธิ์รักษาแผลในกระเพาะอาหาร การให้สารสกัดน้ำ สารสกัดแอลกอฮอล์ อีกทั้งทางปากฉีดเข้าท้อง หรือเข้าลำไส้เล็ก พบว่าสามารถลดการหลั่งของกรดในกระเพาะอาหารหนู และก็มีฤทธิ์ยับยั้งการเกิดแผลในกระเพาะอาหารที่เกิดขึ้นจากการเหนี่ยวนำด้วยกรด ยาแอสไพริน รวมทั้งยา ibuprofen สาร glycyrrhizin รวมทั้งสารที่ตัดส่วนน้ำตาลออก (aglycone) แล้วก็สารสกัดชะเอมที่สกัดเอาสารกลุ่ม glycyrrhizin ออกแล้ว มีฤทธิ์ต้านทานการอักเสบโดยกระตุ้นการหลั่งสารมูก สร้างสาร glycyrrhizin ที่พลังกระเพาะมากขึ้น และมีฤทธิ์ต่อต้านหลักการทำงานของโปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมี pepsin ที่ทำหน้าที่สำหรับเพื่อการย่อยโปรตีน จึงทำให้เยื่อบุกระเพาะของกินมีอายุยืนยาว สารกลุ่ม flavonoids (liquirtigenin และisoliquiritigenin) มีฤทธิ์ต่อต้านการบีบตัวของกล้ามเนื้อเรียบในสัตว์ทดลอง สาร isoliquirtitigenin มีความเฉพาะต่อ H histamine receptor โดยเป็น H recepior antagonist ยิ่งไปกว่านี้ยังมีฤทธิ์ลดการหลั่งของกรด รวมทั้งคุ้มครองการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร
ฤทธิ์ลดการอักเสบ รากชะเอมเทศไม่ระบุขนาดกิน สามารถลดการอักเสบในคน และก็หนูที่ถูกรั้งนำให้มีการอักเสบด้วยcarrageenan หรือ a-chymotrypsin ส่วนสารสกัดบิวทานอล อีเทอร์ และก็น้ำต้มจากรากขนาด 20 ก./กิโลกรัม และไม่เจาะจงขนาด ทดลองโดยให้ทางสายยางลงสู่กระเพาะของกินหนูขาวซึ่งถูกเหนี่ยวนำให้มีการอักเสบด้วยฟอร์มาลีน รวมทั้งทดสอบด้วยแนวทาง albumin stabilizing พบว่าสามารถลดการอักเสบได้
เมื่อนำยาชงจากตำรับที่มีชะเอมเทศเป็นองค์ประกอบ ไม่ระบุขนาดรับประทาน พบว่าสามารถลดการอักเสบในคน สารสกัดตำรับที่มีชะเอมเทศเป็นส่วนประกอบ ไม่ระบุขนาด ทดสอบในหนูขาวซึ่งถูกเหนี่ยวนำให้มีการอักเสบด้วยฮีสตามีน พบว่าสามารถต่อต้านการอักเสบ นอกเหนือจากนั้นสารสกัดน้ำร้อนแล้วก็เอทานอล 95 % ขนาด 18 มก./กก., 180 และก็ 500 มิลลิกรัม/กก., 100 และก็ 200 มิลลิกรัม/กก., 1.1 ก./กิโลกรัม , 350 มก./กก. และไม่ระบุขนาดโดยป้อนทางปาก ให้ทางสายยางลงไปยังกระเพราะอาหาร แล้วก็ฉีดเข้าท้อง ทดลองในหนูขาว หนูถีบจักร และก็หนูเผือกซึ่งถูกเหนี่ยวนำให้เกิดการอักเสบด้วย carrageenan, dextran, paw immersion ในน้ำร้อน , ก้อนสำลี และก็ adjuvant, พบว่าสามารถลดการอักเสบได้ เมื่อให้ยาชงกับสารสกัดน้ำร้อนจากตำรับที่มีชะเอมเทศเป็นส่วนประกอบ ขนาด 100 มก./กก .ทางสายยางเข้ากระเพาะของหนูขาวหรือหนูถีบจักร ซึ่งถูกรั้งนำให้เกิดการอักเสบด้วย carrageenan, dextran, paw immersion ในน้ำร้อน , adjuvant ก้อนสำลี และก็ mustard พบว่าไม่สามารถที่จะลดการอักเสบได้
ฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย สารสกัดเอทานอล 95% จากเหง้าแห้งและก็ราก ความเข้มข้น 25 มก./หลุม ทดลองในจานเพาะเชื้อPseudomonas aeruginosa, Staphylococcus aureus, Streptococcus epidermidis, Streptococcus pyogenes พบว่าสามารถต้านเชื้อแบคทีเรียได้ แต่ว่าก็พบว่าบางการทดสอบ เมื่อทดลองกับเชื้อ S. aureus, S. pyogenes สามารถต่อต้านเชื้อได้เพียงแค่เล็กๆน้อยๆ สารสกัดน้ำจากราก ความเข้มข้น 10 มล./จานเพาะเชื้อ สารสกัดเอทานอล 95% จากราก ไม่ระบุขนาด สารสกัดน้ำ เฮกเซน และก็เอทานอลจากราก ความเข้มข้น 200 มิลลิกรัม/มล. สารสกัดเมทานอลจากรากไม่ระบุขนาด ทดสอบสำหรับในการจานเพาะเชื้อ S. aureus , P. aeruginosa พบว่าไม่สามารถต่อต้านเชื้อแบคทีเรียได้
นอกเหนือจากนี้ยังมีการศึกษาทางสถานพยาบาลในชะเอมเทศอีกเป็นต้นว่ากรณีผู้ป่วยโรคกระเพาะอาหาร การรับประทานรากชะเอมเทศจะทำให้แผลหายเร็วขึ้น 75% สาระสำคัญคือสารglycyrrhetic acid (enoxolone) ซึ่งมีฤทธิ์ยั้งเอนไซม์ 15-hydroxyprostaglandin dehydrogenase และ –prostaglandin reductase ทำให้มีการสร้างสาร prostaglandins E แล้วก็ F ที่กระเพาะ ซึ่งจะช่วยการสมานแผลกระเพาะก้าวหน้า
ส่วนในกรณีคนไข้โรคกระเพาะอาหารแล้วก็ลำไส้ เมื่อกินชะเอมเทศที่มีการสกัดเอาสาร glycyrrhizin ออกไปแล้วในปริมาณ 380 มก. วันละ 3 ครั้ง พบว่าได้ผลการรักษาเท่ากันกับการให้ยาลดกรดและก็ยา cimetidine
การศึกษาทางพิษวิทยา
การทดลองความเป็นพิษในมนุษย์ เมื่อนำสารสกัดน้ำจากรากชะเอมเทศ ไปใช้เป็นยาระบายในคน เจอ 5 ราย กำเนิดเป็นพิษ โดยมีลักษณะอาการความดันเลือดสูง โดยระดับโพแทสเซียมไอออนเพิ่มพลาสมาเรนิน และระดับ aldosterone ลดน้อยลง นอกเหนือจากนี้คนที่รับประทานสารสกัดน้ำจากรากไม่กำหนดขนาด พบว่ามีลักษณะความดันโลหิตสูง กระดูกจมูก ขากรรไกร นิ้วมือนิ้วเท้าโตกว่าธรรมดา (acromegaly) รวมทั้งมีลักษณะอาการบวมน้ำร่วมด้วย ยิ่งกว่านั้นยังเจอรายงานอาการภาวะความดันโลหิตสูงเมื่อรับประทานรากชะเอมเทศ อาทิเช่น หญิงรับประทานรากชะเอมเทศไม่กำหนดขนาด หญิงอายุ 40 ปี รับประทานรากชะเอมเทศขนาด 100 กรัม/วัน คนไข้หญิงประวัติความเป็นมาเป็นโรคเบื่ออาหารชายอายุ 36 ปี รับประทาน ขนาด 25 ก./วัน นาน 1 เดือน รวมทั้งเด็กผู้ชายอายุ 15 ปี กินทอฟฟี่ที่มีชะเอมเทศเป็นส่วนประกอบอยู่ 0.5 ก. ยิ่งไปกว่านี้ยังมีรายงานความเป็นพิษของตำรับที่มีชะเอมเทศเป็นส่วนประกอบ โดยนำมาซึ่งความดันเลือดสูง ยกตัวอย่างเช่นหญิงรับประทานตำรับที่มีชะเอมเทศเป็นองค์ประกอบ ขนาด 0.25 กก./วัน รวมทั้งยังมีแถลงการณ์ว่าหญิงกินชาชงชะเอมเทศ ขนาด 3 ลิตร/วัน มีลักษณะความดันเลือดสูง
การทดลองความเป็นพิษในสัตว์ทดลอง
สารสกัดเอทานอล-น้ำ (1:1) จากราก ฉีดเข้าช่องท้องหนูถีบจักร พบว่าค่าที่ทำให้สัตว์ทดสอบตายครึ่งเดียว (LD50)เท่ากับ 681 มก./กก. แล้วก็สารสกัดน้ำซึ่งมี glycyrrhizin อยู่ 48-58 % ฉีดเข้าท้องหนูขาว หนูถีบจักร พบว่าค่าที่ทำให้สัตว์ทดสอบตายครึ่งเดียว (LD50) พอๆกับ 1.5 กรัม/กก. เมื่อป้อนทางปากหนูขาว หนูถีบจักร พบว่าค่าที่ทำให้สัตว์ทดลองตายครึ่งเดียว (LD50) พอๆกับ 16 กรัม/กก. เมื่อฉีดเข้าใต้ผิวหนังหนูขาว หนูถีบจักร พบว่าค่าที่ทำให้สัตว์ทดลองตายครึ่งเดียว (LD50) เท่ากับ 4.2 ก./กก.อีกการทดลองพบว่าสารสกัดเอทานอล 30% จากรากไม่กำหนดขนาดป้อนให้ทางปากหนูถีบจักรพบว่า ค่าที่ทำให้สัตว์ทดลองตายกึ่งหนึ่ง (LD50) เท่ากับ 32 มล./กก.สารสกัดจากตำรับที่มีชะเอมเทศเป็นองค์ประกอบ เมื่อฉีดเข้าท้องหนูถีบจักร พบว่าค่าที่ทำให้สัตว์ทดสอบตายมากที่สุด (MLD) เท่ากับ 23.6 ก/กก นอกเหนือจากนี้การทดสอบตำรับที่มีชะเอมเทศเป็นองค์ประกอบ ทดสอบในหนูถีบจักรเพศผู้เพศภรรยา พบว่าค่า LD50 มากกว่า 5 ก./กก. และสารสกัดเอทานอลจากตำรับที่มีชะเอมเทศเป็นองค์ประกอบ ทดสอบในหนูถีบจักรพบว่าค่า LD50 เท่ากับ 1.8 ก./กิโลกรัม
พิษต่อตัวอ่อน สารสกัดเอทานอล 40% จากราก ขนาด 1.6 มิลลิลิตร/กิโลกรัมทดสอบในกระต่ายและหนูขาวที่ตั้งท้อง ไม่พบความเป็นพิษต่อตัวอ่อน ยิ่งกว่านั้นการศึกษาเล่าเรียนความเป็นพิษ พบว่าเมื่อให้สารสกัดดังที่กล่าวถึงมาแล้วเป็นเวลา 13 สัปดาห์ ไม่เจอความเป็นพิษต่อทุกระบบ ยังพบว่าสารสกัดเอทานอล95% จากตำรับที่มีชะเอมเทศเป็นส่วนประกอบ ขนาด 250 มิลลิกรัม/กก. ให้ทางสายยางเข้าไปในกระเพาะของกินหนูขาวที่ท้อง พบความเป็นพิษต่อตัวอ่อนแม้กระนั้นผลที่ได้ไม่แน่นอน (equivocal) รวมทั้งสารสกัดไม่กำหนดส่วน ขนาด 200 มก./กก.ทดสอบในหนูขาวและก็หนูถีบจักร ไม่เจอความเป็นพิษต่อระบบต่างๆของร่างกาย ยิ่งไปกว่านี้ยาชงจากรากชะเอมเทศ ไม่ระบุขนาด ให้ทางสายยางลงไปยังกระเพราะของกินหมาและหนูขาว ไม่เจอความเป็นพิษ
พิษต่อเซลล์ สารสกัดน้ำจากตำรับที่มีชะเอมเทศเป็นส่วนประกอบ ความเข้มข้น 250 มคก./มิลลิลิตร และ 500 มคก./มิลลิลิตรทดสอบสำหรับการเพาะเลี้ยง CA-mamary-microalveolar พบว่าความเข้มข้นขนาด 250 มคกรัม มีความเป็นพิษต่อเซลล์อย่างอ่อน ส่วนความเข้มข้น 500 มคกรัม ไม่เจอความเป็นพิษต่อเซลล์ นอกเหนือจากนั้นยังพบว่าสารสกัดน้ำร้อนจากตำรับที่มีชะเอมเทศเป็นส่วนประกอบ ความเข้มข้น 500 มคล./มิลลิลิตรทดสอบสำหรับเพื่อการเพาะเลี้ยง cells-HE-1 ความเข้มข้น 250 มคล./มล. ทดสอบสำหรับในการเพาะเลี้ยง CA-JTC-26 พบว่าที่ความเข้มข้น 500 มคลิตร ไม่มีความเป็นพิษต่อเซลล์ ส่วนความเข้มข้น 250 มคลิตร พบว่ามีพิษต่อเซลล์ อีกการทดสอบหนึ่งพบว่าสารสกัดเอทานอล-น้ำ (1:1) จากตำรับที่มีชะเอมเทศเป็นส่วนประกอบ ขนาด 25 มคกรัม/มิลลิลิตร ทดสอบสำหรับการเพาะเลี้ยง CA-9KB ไม่เจอความเป็นพิษต่อเซลล์ สารสกัดน้ำจากตำรับที่มีชะเอมเทศเป็นส่วนประกอบ ขนาด 2 มก./มล. ทดสอบสำหรับการเพาะเลี้ยง Hela cells ไม่เจอความเป็นพิษต่อเซลล์ สารสกัดน้ำ สารสกัดเมทานอลจากรากชะเอมเทศ ความเข้มข้น 100 มคก/มล. ทดสอบในการเพาะเลี้ยง Vero cells ไม่เจอความเป็นพิษต่อเซลล์นอกเหนือจากนี้สารสกัดน้ำจากรากชะเอมเทศ ความเข้มข้น 10% ความเข้มข้น 400 มคล./มล.ทดสอบในการเพาะเลี้ยง Hela cells รวมทั้ง cell-MT2 ตามลำดับ ไม่พบความเป็นพิษต่อเซลล์ สารสกัดเมทานอลจากราก ทดลองสำหรับในการเพาะเลี้ยง Ishikava cells และ S-30 cells พบว่าค่า IC50 พอๆกับ มากกว่า 20 มคกรัม/มล. แม้กระนั้นไม่พบความเป็นพิษต่อเซลล์
ฤทธิ์ก่อกลายพันธุ์ สารสกัดน้ำจากตำรับที่มีชะเอมเทศเป็นองค์ประกอบ ไม่ระบุความเข้มข้น ทดสอบสำหรับการเพาะเลี้ยง Salmonella typhimurium TA100, TA98 ไม่พบฤทธิ์ก่อกลายพันธุ์
คำแนะนำ/ข้อควรไตร่ตรอง
1. ห้ามใช้ในผู้เจ็บป่วยที่มีภาวะความดันโลหิตสูง ตับแข็ง สภาวะโปตัสเซียมต่ำ โรคไตเรื้อรัง โรคตับอักเสบ รวมทั้งหญิงท้อง
2. ห้ามใช้ชะเอมเทศร่วมกับยาคอร์ติวัวสเตียรอยด์
3. เลี่ยงการใช้ชะเอมเทศร่วมกับยาขับฉี่Spironolactone หรือ Amiloride เพราะจะมีผลให้ประสิทธิผลของการดูแลรักษาโรคความดันเลือดลดน้อยลง
4. คนที่จำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัด ควรงดบริโภคชะเอมเทศขั้นต่ำ 2 อาทิตย์ก่อนเข้ารับการผ่าตัด ด้วยเหตุว่าชะเอมเทศอาจก่อกวนการควบคุมความดันโลหิตในระหว่างแล้วก็หลังการผ่าตัด
5. ชะเอมเทศในขนาดที่มากกว่า 50ก./วัน เกินกว่า 6 อาทิตย์ จะทำให้เกิดการสะสมน้ำภายในร่างกาย เกิดการบวมที่มือแล้วก็เท้า สารโซเดียมถูกขับได้ลดลง ขณะที่สารโพแทสเซียมถูกขับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ความดันเลือดสูงขึ้น
เอกสารอ้างอิง

  • นพมาศ สุนทรเจริญนนท์. ชะเอมเทศ.บทความวิชาการ สมุนไพรในตำรับยาหอม.จุลสารข้อมูลสมุนไพรคณะเภสัชศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดล.ปีที่28.ฉบับที่2.มกราคม 2554 หน้า 7-12
  • ชยันต์ พิเชียรสุนทร และ วิเชียร จีรวงศ์. คู่มือเภสัชกรรมแผนไทยเล่ม 1 น้ำกระสายยา. พิมพ์ครั้งที่ กทม. อัมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง. 2556. หน้า 34 – 35
  • ชะเอมเทศ.สมุนไพรที่มีการใช้ในผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยเอดส์.สำนักงานข้อมูลสมุนไพรคณะเภสัชศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดล.
  • สุจิตรา ทองประดิษฐ์ ยุวดี วงษ์กระจ่าง วิสุดา สุวิทยาวัฒน์ จรุงจันทร์ กิจผาติ.  การศึกษาความเป็นพิษของยาหอม.  วารสารสมุนไพร2542;6(1):1-10.https://www.disthai.com/
  • ชะเอมเทศกับความดันโลหิตสูง.บทความเผยแพร่ความรู้สู่ประชาชน.สำนักงานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์มหิดล.
  • ชะเอมเทศ.กระดานถาม-ตอบ.สำนักงานข้อมูลสมุนไพรความรู้สู่ประชาชน.สำนักงานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล.Patcharin B, Pusit S, Malee L.  Preparation and evaluation of cough pills from natural products.  Special project, Faculty of Pharmacy, Mahidol University, 1984:30pp.
  • Naovi SAH, Khan MSY, Vohora SB.  Anti-bacterial, anti-fungal and anthelmintic  investigations on Indian medi


 

สถานที่รับซื้อเพชร | ตั้งชื่อ | รับซื้อเพชร | รับซื้อทองเชียงราย | ช่างประตูม้วน | รับซื้อทอง | เครื่องถ่วงล้อ | รับซื้อเพชร