รับซื้อเพชร

ผู้เขียน หัวข้อ: โทรศัพท์ซัมซุง รุ่นใหม่  (อ่าน 8 ครั้ง)

มกราคม 19, 2019, 02:42:08 am
  • จอมพล
  • ************
  • กระทู้: 4951
  • คะแนนโหวต: 0
  • เพศ: ชาย

ย้อนกลับในศก 2001 โทรศัพท์เคลื่อนที่ได้เริ่มมีการจัดจำหน่ายในวงกว้างแต่ทว่าเนื่องด้วยพัฒนาการของเทคโนโลยี ตัวอย่างเช่นฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรือเครือข่าย ยังไม่พร้อมต่อการใช้งานอย่างเคร่งครัดมากนัก เมื่อผนวกและมูลค่าที่สูงเป็นปกติของเครื่องไม้เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ชนิดใหม่ๆ ขณะนั้น ส่งผลลัพธ์ให้มีผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ไม่มากนักเมื่อเทียบเคียงกับท้องตลาดโทรศัพท์มือถือรวมทั้งหมด
 
 อย่างไรก็ดียุคสมัยก็แปรผันพร้อมด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีมาเรื่อยๆ จนถึงปัจจุบันนี้ โทรศัพท์มือถือ กลับเป็นส่วนสำคัญอีกอย่างหนึ่งในชีวิตของหลายๆ คน ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และเครือข่ายต่าง ๆ เปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานหลาย ๆ ล้านคนได้สื่อสารและมีกิจกรรมอื่น ๆ บนสมาร์ทโฟนได้สบาย
 
 ในศักราช 2017 ยอดรวมส่งออกสมาร์ทโฟนทั่วกันโลกอยู่ที่ 408 ล้านเครื่องโดยในไตรมาสที่ 3 ปี 2017 นั้นโทรศัพท์มือถือถูกซื้อขายไปรวมทั้งสิ้นโดยประมาณ 383 ล้านเครื่อง เพิ่มปริมาณจากปี 2016 ราว 5% ซึ่ง 3 ลำดับของแบรนด์ที่มียอดจำหน่ายสูงสุดคือ 1. ซัมซุง ส่วนแบ่งตลาด 21%,2. แอปเปิ้ล ส่วนแบ่งตลาด 12%และ 3. หัวเว่ย ส่วนแบ่งการตลาด 10% เราไปเจาะลึกสภาพการณ์ของแต่ละยี่ห้อกันเลย

 ปลายปีที่ผ่านมา ซัมซุงเพิ่งเปิดเผยสถิติผลกำไรมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2017โดยกำไรสุทธิตั้งแต่เดือนตุลาคมจวบจนถึงเดือนธันวาคมทะยานไปแตะ 357,000 ล้านบาทแต่ดูเหมือนว่า ซัมซุงจะทุบสถิติลงอีกครั้งหลังจากพ้นไปเพียง 3 เดือน ครั้นก้าวเข้าสู่มีนาคม 2018ซึ่งทำรายรับคร่าวๆ 1.7 ล้านล้านบาทแล้ว

 
ซึ่งแม้ว่าเงินรายได้รวมในไตรมาสแรกของปี 2018 นั้นจะน้อยกว่าไตรมาสสุดท้ายของปีที่ผ่านมา แต่ว่าด้วยค่าใช้จ่ายต่างๆ นั้นต่ำกว่า ทำเอา ซัมซุงสามารถสร้างเงินกำไรได้เป็นสถิติใหม่ของบริษัทอีกครั้งที่ 14,600 ล้านเหรียญ แปลงเป็นเงินไทยที่ 450,000 ล้านบาท

ที่มาของผลกำไรที่เป็นสถิตินี้ ก็เป็นงานของมือถือซัมซุง Galaxy S9 / S9+ ที่ปีนี้เลื่อนมาจำหน่ายเร็วขึ้น ผนวกกับความสำเร็จของ Galaxy A (2018) ที่เป็นโทรศัพท์ซัมซุงราคาไม่แพงที่ค้าในหลายๆ แว่นแคว้น และหน้าจอ OLED แต่ที่เป็นตัวสร้างเงินรายได้สูงสุดจริงๆ นั้นคือชิป DRAM ที่สามารถทำเงินกำไรได้สูงถึง 70% ของตลาด

 ส่วนแอปเปิ้ลรายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 1 ตามปีการเงิน 2018 ของบริษัท (ตุลาคม-ธันวาคม 2017) ซึ่งรายรับรวมสร้างสถิติใหม่สูงสุดในประวัติศาสตร์บริษัทอีกครั้ง 88,293 ล้านดอลลาร์ หรือ 2.83 ล้านบาท ขยาย 13% จากเวลาเดียวกันในปีก่อน และมีเงินกำไรสุทธิ 20,065 ล้านดอลลาร์ หรือ 643,485 ล้านบาท ซึ่งก็เป็นสถิติใหม่บริษัทเช่นกัน ด้านรายได้จากต่างประเทศนอกประเทศสหรัฐอเมริกาคิดเป็น 65% ของรายได้รวม

 3 เดือนที่ผ่านมาแอปเปิ้ลเริ่ม ขาย iPhone X ซึ่งคาดหมายกันว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์หลักที่ทำกำไร ทั้งที่จะมีข่าวลือออกมาไม่ดีนัก โดยในรายงานผลประกอบการนั้นแอปเปิ้ลชี้แจงตัวเลขรวมของ iPhone ทั้งหมดว่าขายได้ 77.316 ล้านเครื่อง ลดลงจาก3 เดือนเดียวกันในปีก่อน 1% (78.290 ล้านเครื่อง)

 เงินได้จาก iPhone ทุกรุ่นอยู่ที่ 61,576 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 13% (54,378 ล้านดอลลาร์ หรือ 1.74 ล้านบาท)
                ที่น่าสนใจคือ iPhone X เป็นไอโฟนรุ่นที่ขายดิบขายดีที่สุดของแอปเปิ้ลในทุกสัปดาห์ นับแต่เปิดตัวส่งมอบครั้นเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2017 และขายได้ยิ่งกว่าที่แอปเปิลคาด
 
 ทางด้านหัวเว่ยสรุปผลประกอบการรวมปี 2017 ยังคงมีรายรับที่ดีแตะ 9,250,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 296.64 ล้านบาท เพิ่มจากปี 2016 ถึง 15.7% คิดเป็นดอกผลสุทธิ 730,000 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ หรือ 23.4 ล้านบาท เพิ่ม 28.1% ในปีที่ผ่านมา

 โดยในปี 2017 หัวเว่ยได้มอบมือถือทั้งหมด 153 ล้านเครื่อง (รวมยี่ห้อ Honor ที่เป็นกรรมสิทธิ์เดียวกัน) เพิ่มขึ้นร้อยละ 31.9 จากปี 2016

 ซึ่งเมื่อปี 2016 CEO ของ หัวเว่ยเคยประกาศเอาไว้ว่า เป้าหมายของบริษัทคือการก้าวขึ้นไปเป็นบริษัทโทรศัพท์มือถือใหญ่โตอันดับ 1 ของโลกให้ได้ภายใน 5 ปี แต่กระนั้นตอนนี้ หัวเว่ยยังค่อนข้างมีปัญหาในการพยายามเจาะตลาดโซนอเมริกาเหนือ ก็เพราะว่าฝั่งนั้นยังมีเจ้าตลาดอย่าง iPhone กำกับอยู่ ด้านตลาดในฝั่งทวีปยุโรปนั้น หัวเว่ยทำได้สวยเลยทีเดียว เนื่องจากสมาร์ทโฟนเกรดไฮเอนด์ในซีรีส์ Mate และ P ได้รับความนิยมชมชอบเป็นอย่างดี

 แม้ว่ายอดสรุป3 เดือนล่าสุดปี 2018 ของหัวเว่ยยังไม่ประกาศออกมา แต่ปี 2018หัวเว่ย ก็มุ่งไปที่การใช้งานเทคโนโลยีใหม่ในสเกลใหญ่ อาทิเช่น Internet of Thing, Cloud Computing, ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ 5G
 
 ในหลายปีที่ผ่านมาเครือข่ายไร้สาย 3G มีการใช้งานทั่วโลก หลากหลายรัฐมี 4G และปี2018 คาดหวังว่าเป็นการเริ่มต้นแห่งยุค 5G ซึ่งจะมีการใช้งานในพิธีเปิดกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว ครั้งที่ 23 (พย็องชัง 2018) ที่ประเทศเกาหลีใต้ เป็นการทดสอบสมรรถนะก่อนจะใช้อย่างเป็นทางการใน 2 ปีภายภาคหน้า
 
 การปรากฏตัวของขอบข่ายไร้สาย 5G เป็นเหตุให้มีการประเมินกันว่า โทรศัพท์เคลื่อนที่จะเป็นส่วนใดส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันมากขึ้นไปอีกซึ่งจำต้องรอจับตามองดูว่าแบรนด์สมาร์ทโฟนกลุ่มนี้จะใช้โอกาสนี้เป็นประโยชน์ได้มากแค่ไหนในการเพิ่มยอดขายและช่วงชิงความเป็นที่ 1 ต่อไป
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : โทรศัพท์ซัมซุงราคา

Tags : โทรศัพท์ซัมซุง,โทรศัพท์ซัมซุงราคา,โทรศัพท์ซัมซุง รุ่นใหม่


 

สถานที่รับซื้อเพชร | ตั้งชื่อ | รับซื้อเพชร | รับซื้อทองเชียงราย | ช่างประตูม้วน | รับซื้อทอง | เครื่องถ่วงล้อ | รับซื้อเพชร