หมวดหมู่ช้อปปิ้ง > เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า

ความหมายของแหวนแต่ละชนิด

(1/1)

elizabethchris352:
แหวน เป็น เครื่องประดับที่ใส่บนนิ้วมือของพวกเรา แสดงถึงความหมายแล้วก็ความภูมิฐานของผู้สวมใส่ มีทั้งๆที่สร้างขึ้นจากทองคำ เงิน นากหรือหินจากธรรมชาติ ขึ้นอยู่กับความชื่นชอบของบุคคล รูปแบบสำหรับเพื่อการดีไซน์มีความสำคัญและก็สามารถสื่อความหมายออกมาได้ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นลักษณะของตัวบ้าน หัวเรือนและรูปแบบของวงที่เอามารวมกัน ซึ่งแต่ละแบบจะมีความหมายที่ส่วนตัว ด้วยเหตุนั้นแม้ปรารถนานำเครื่องเพชรพลอยนิ้วมือให้กับใครสักคน การรู้ความหมายเพื่อสื่อความรู้สึกของพวกเราไปสู่ผู้รับ ย่อมทำให้ท่านค่าของสิ่งที่เรามอบให้มีมากเพิ่มขึ้น
 
แหวน เครื่องประดับเสริมความสวยงามที่ต้องมีติดนิ้วไว้



โดยเหตุนี้เรามาทำความรู้จักกับความหมายของตัวเรือนและหัวเรือนในแต่ละแบบกัน 
1. แบบเม็ดยอดหรือเม็ดผู้เดียว ( Solitaire ) คือ แบบที่มีหัวเรือนเป็นเม็ดเดียว โดดเด่นสะดุดตาอยู่บนตัวบ้านเรียบ ไม่ว่าจะหัวเรือนจะเป็น เพชร พลอย หรือหินที่เป็นมงคล การออกแบบจะย้ำที่ส่วนยอดของหัวเรือนให้มีขนาดใหญ่ ซึ่งหัวเรือนจะเป็นแบบกลม แบบสี่เหลี่ยมหรือหลายเหลี่ยมก็ได้ แต่ว่าที่นิยมจะเป็นสี่เหลี่ยมรวมทั้งวงกลม ทั้งยังแบบที่มีเพียงแค่เม็ดเดียวหรือมีเม็ดเล็กเล็กเรียงอยู่ข้างๆก็ได้ นิยมใช้ในลัษณะของการงานแต่งงาน งานหมั้นหมาย เพราะเหตุว่าอย่างงี้เป็นการวางแบบที่สื่อถึงความรักเดียวใจเดียวดังหัวเรือนที่สะดุดตาเพียงแค่หนึ่งเดียวในใจนั่นเอง
2. แบบรอบวง (Infinity Rings ) คือ แหวนแบบที่มีการติดเม็ดอยู่รอบวงจนกระทั่งเต็มไม่มีพื้นว่าง ซึ่งจะเป็นเม็ดพลอย เพชร หรือหินมงคลก็ได้ตามความชอบ ทุกเม็ดที่นำมาจัดเรียงบนตัวเรือนจะมีลักษณะแบบเดียวกันหมด ทั้งขนาดรวมทั้งรูปร่าง แต่ว่าบางครั้งอาจจะสีสันที่แตกต่างกันไปบ้าง แม้กระนั้นไม่มีเม็ดใดเด่นหรือด้อยกว่ากัน ก็เลยไม่สามารถกำหนดได้ว่าเม็ดใดเป็นเม็ดแรกหรือเม็ดท้ายที่สุดบนตัวบ้าน นิยมใช้ในงานหมั่น ของขวัญครบรอบแต่งงาน หรือในช่องทางสำคัญให้กับคนรัก เพื่อสื่อความหมายถึงความรักที่มีอยู่วันเป็นรักที่ไม่มีทางจบ ราวกับแหวนที่ไม่มีจุดสิ้นสุดบนตัวเรือนนั่นเอง
3.แบบหมดจด ( Classic Rings) เป็น แบบที่ราบเรียบไม่มีการแต่งลวดลายบนตัวเรือน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของคำสัญญาว่ารักมั่นคงตลอดกาล ปต่ในตอนนี้อาจมีการแต่งลวดลายเป็นเส้นหรือการเล่นสีของวัสดุที่นำมาใช้สำหรับการผลิต เพื่อสร้างความสะดุดตาและความสวยสดงดงามให้กับตัวบ้าน เป็นต้นว่า การใช้ทองคำขาวสลับกับทอง หรือเซาะร่องเพื่อให้กำเนิดลายเส้น ฯลฯ แต่ก็ยังนับว่าเป็นแบบหมดจดดังเช่นว่าเดิม นิยมใช้สวมในพิธีแต่งงานตามศาสนาคริสต์ ที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวจะสวมให้แก่กันและกัน เพื่อแทนความหมายของคำปัญญาว่าพวกเราจะอยู่ร่วมกันนิรันดรนั่นเอง
4. แบบเพชรสามเม็ดเรียง (3 Stones Rings) เป็น แหวนรูปแบบที่ตัวบ้านมีหัวเรือนสามหัวเรียงกัน ซึ่งขนาดของหัวเรือนจะมีขนาดที่เสมอกันหรือไม่ก็ได้ แต่ว่าแบบที่นิยมเป็น หัวเรือนตรงกลางจะมีขนาดใหญ่สุด หัวเรือนทางด้านขวาและซ้ายมีขนาดเล็กลงวางอยู่ข้างๆหัวเรือนตรงกลาง ซึ่งการเรียงกันของหัวเรือนทั้งสามนี้ จะสื่อถึงอดีตกาล เดี๋ยวนี้แล้วก็อนาคตที่คนสองคนมีร่วมกันกัน หรือแทนคำสาบานว่า ไม่ว่าจะสมัยก่อน ปัจจุบันหรืออนาคต พวกเราก็จะอยู่ด้วยกันนั่นเอง
5. แบบสามวง (Trinity Rings) คือ แบบอย่างที่มีตัวเรือนสามห่วงรวมอยู่ในวงเดียวกัน ซึ่งหมดทั้งตัวเรือนทั้งสามห่วงจะเป็นตัวแทนของพระบิดา พระบุตร และก็ พระวิญญาณบริสุทธิ์ ตามความยำเกรงของคริสเตียน ซึ่งตัวเรือนอีกทั้งสามห่วงจะไม่สามารถที่จะแยกออกมาจากกันได้ จึงสื่อความหมายถึงความรัก ความกลมเกลียว ความสามัคคีของผู้บริจาคและผู้ส่วมใส่นั่นเอง
6. แบบค็อกเทล (Cocktail Rings) เป็น แบบที่มีการใส่จินตนาการและสีสันลงไป มีแบบที่ไม่ยึดติดแบบใดเป็นหลัก ทั้งหัวและตัวเรือนสามารถปรับเปลี่ยนหรือเปลี่ยนได้ตามความชื่นชอบของผู้ใส่ จึงแสดงถึงอิสระรวมทั้งเสรีภาพนั่นเอง ซึ่งนิยมใส่เป็นเครื่องประดับทั่วๆไป หรือทำเป็นชุดคู่กับสร้อย ข้อมือ ต่างหูก็ได้
ตรงนี้เมื่อรู้ความหมายของแหวนแต่ละแบบแล้ว การเลือกแหวนเพื่อสื่อความรู้สึกในใจหรือแทนความรู้สึกที่เรามีให้กับคนรับคงจะเป็นเรื่องที่ไม่ได้ยากเย็น แหวนคือผู้แทนความหมาย ความรู้สึกที่ดีสำหรับมอบให้ผู้ที่คุณรักในทุกช่องทาง

Tags : แหวน,แหวน

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ