เริ่มหัวข้อโดย: uchaiyawat ที่ มกราคม 12, 2019, 09:01:28 pm
UPS (Uninterruptible Power Suppy) คือเครื่องสำรองไฟฟ้า สามารถช่วยรักษาอันตรายที่อาจบังเกิดกับเครื่องใช้ไฟฟ้าและวัสดุอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ (โดยเฉพาะอย่างยิ่งคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ) อันเนื่องมาจากกระแสไฟฟ้าที่ผิดปกติได้ อาทิเช่น จากความผิดพลาดของระบบกระจายกำลังไฟฟ้าเอง หรือปรากฏการณ์ธรรมชาติ ฝนลงเม็ดฟ้าคะนอง ลมพายุฝนฟ้า หรือจากการรบกวนของเครื่องใช้ไฟฟ้าในตึกที่ใช้กระแสไฟไม่สม่ำเสมอ ซึ่งไฟฟ้าที่ผิดปกติในแต่ละประเภท อาจทำให้เกิดปัญหาต่างๆ ได้ โดย UPS จะทำหน้าที่ป้องกัน ดังนี้
- กระจายพลังไฟฟ้าสำรองให้แก่เครื่องไฟฟ้าและเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ ขณะเกิดไฟดับหรือไฟตก เพื่อให้มีเวลาสำหรับการ Save ข้อมูล และไม่ทำให้ Floppy Disk และ Hard Disk ไม่ทำงาน
- ปรับแรงดันกระแสไฟให้อยู่ในลำดับขั้นที่ปลอดภัยต่อเครื่องใช้ไฟฟ้าและเครื่องไม้เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ทันทีที่เกิดปัญหาทางไฟฟ้า อาทิเช่น ไฟตก, ไฟดับ, ไฟกระชาก และไฟเกิน เป็นอาทิ
- ป้องกันสัญญาณกวนทางอิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถสร้างความหายนะต่อข้อมูลและอุปกรณ์ไฟฟ้าได้
หลักการทำงานทั่วไปของ UPS
ปกติแล้วครั้นเมื่อ UPS รับพลังไฟฟ้าเข้ามาไม่ว่าคุณภาพกระแสไฟจะเป็นอย่างไรก็จะสามารถจ่ายพลังไฟฟ้าให้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าได้เหมือนปกติ รวมไปถึงทำการแจกจ่ายพลังงานไฟฟ้าสำรองที่เก็บสำรองไว้ในแบตเตอรี่ให้กับอุปกรณ์ไฟฟ้า ซึ่งแนวทางของ UPS ก็คือ ใช้วิธีการแปลงกระแสไฟกระแสสลับ (AC)เป็นกระแสไฟกระแสตรง (DC)แล้วเก็บสำรองไว้ในแบตเตอรี่ส่วนหนึ่ง และในกรณีที่เกิดปัญหาทางไฟฟ้า (เช่น ไฟดับ หรือคุณภาพไฟฟ้าผิดปกติ เป็นอาทิ) เครื่องใช้ไฟฟ้าไม่สามารถใช้พลังไฟฟ้าที่รับมาได้ UPS ก็จะเปลี่ยนกระแสไฟฟ้ากระแสตรง (DC)จากแบตเตอรี่ ให้กลายเป็นกระแสไฟฟ้ากระแสสลับ (AC)แล้วจึงจ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าตามปกติ
ส่วนประกอบสำคัญของ UPS
เครื่องประจุแบตเตอรี่ (Charger)หรือว่า เครื่องแปลงกระแสไฟฟ้า AC เป็น DC (Rectifier) ทำหน้าที่รับกระแสไฟฟ้า AC จากระบบกระจายไฟ แปลงเป็นกระแสไฟ DC จากนั้นประจุเก็บไว้ในแบตเตอรี่
เครื่องแปลงกระแสไฟ (Inverter)ทำหน้าที่รับกระแสไฟ DC จากเครื่องแปลงไฟฟ้า AC เป็น DC หรือแบตเตอรี่ พร้อมกับแปลงเป็นกระแสไฟ AC สำหรับใช้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าและเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์
แบตเตอรี่ (Battery) ทำหน้าที่กักตุนพลังงานไฟฟ้าสำรองไว้ใช้ในกรณีเกิดปัญหาทางไฟฟ้า ซึ่งจะกระจายไฟฟ้า DC ให้กับเครื่องแปลงไฟฟ้าในกรณีที่ไม่สามารถรับไฟฟ้า AC จากระบบแจกจ่ายไฟได้
ระบบปรับแรงกดดันกระแสไฟอัตโนมัติ (Stabilizer) ทำหน้าที่ปรับแรงกดดันไฟฟ้าให้ไม่เปลี่ยนแปลงและต่อเนื่องอยู่ในระดับที่ไม่เป็นอันตรายต่อเครื่องใช้ไฟฟ้า
UPS มีด้วยกัน 3 แบบ
- True Online ชนิดนี้เป็นแบบที่อยากได้กระแสไฟอยู่กับที่มากๆ เหมาะสมกับ วัสดุอุปกรณ์ที่มีมูลค่าแพง เนื่องด้วยเครื่องไม้เครื่องมือแพงของพวกเราจะรับกระแสไฟฟ้าจาก Battery ของ UPS ไม่ได้รับมาจาก Power Supply ตรงๆ ฉันนั้น ไฟฟ้าที่ออกมาจาก Battery จะปลอดภัยมาก ถึงอย่างไรมูลค่า UPS ชนิดนี้ จะมีมูลค่าที่แพงกว่าแบบอื่นนั่นเอง โดยมาก UPS นี้จะถูกใช้กับพวกวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์
2. Offline Protection ชนิดนี้ระแวดระวังได้เฉพาะในเรื่องของ ไฟฟ้าดับ หรือ ไฟตก เท่านั้น และในระหว่างไฟตกตัว UPS จะทำการขนย้ายแหล่งจ่ายให้ผ่าน Battery ของ ตัว UPS เองซึ่งจะทำให้กระแสไฟหายราวๆ 2 ms. มูลค่า UPS ชนิดนี้จะถูกที่สุด
3 Line Interactive แบบหลังสุด จะเหมือนๆ กับ Offline Protection แต่เหนือกว่าตรงที่่มีการเพิ่มเติมวงจรที่สามารถปรับแรงกดดัน Incoming ซึ่งจะสามารถรับไฟฟ้าที่มีแรงกดดันสูงกว่าปกติได้ และจะปรับให้แรงดันขาออกให้ราบเรียบได้ไม่สูงเหมือนตอนเข้า และทำนองเดียวกับ Offline ในขณะที่ไฟฟ้าดับ คลื่นไฟฟ้าจะหายไป 2 ms เหมือนกัน ถึงกระนั้นก็ตามชนิดนี้เหมาะสำหรับ server ที่มีขนาดย่อม
ในทุกวันนี้ UPS มีมากนานาแบรนด์หลากรุ่นให้เลือกสรรโดยฉันย่อใจความข้อที่ควรพินิจพิเคราะห์ก่อนจะจ่ายเงินดังต่อไปนี้
- คอมตามบ้านพักอาศัย 1 ชุด แนะนำให้ซื้อ UPS แบบ On-line UPS ขนาดโดยประมาณ 300 VA ราคาโดยประมาณ 2,000 -3,000 บาทก็พอ
- เครื่องพิมพ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเครื่องพิมพ์แบบหัวเข็มและเครื่องพิมพ์แบบเลเซอร์ ไม่แนะนำให้ต่อเข้ากับ UPS ในช่องปกติ แนะนำให้ต่อในลักษณะ By Pass แทน
- สำหรับการนำไปใช้ในห้อง Server แนะนำต้องเป็น UPS อย่าง True-Online เท่านั้น
จากข้อมูลเท่าที่มีวาดหวังว่าคุณจะได้ทำความรู้จักและเข้าใจถึงข้อที่ควรพิจารณาก่อนเลือกซื้อ UPS กันไปพอเหมาะพอควร และวาดหวังว่าปัญหากระแสไฟฟ้าดับจะปลอดภัยต่อคอมของท่านอีกต่อไป
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ups ยี่ห้อไหนดี (https://www.powerbuy.co.th/th/zircon-เครื่องสำรองไฟฟ้า-รุ่น-hbu21000va500w-อุปกรณ์เสริมคอมพิวเตอร์-230689)
Tags : UPS,ups ราคา,ups ยี่ห้อไหนดี