ผ้าไหมเป็นเส้นใยโปรตีน ธรรมชาติซึ่งบางรูปแบบสามารถทอเป็นผ้าได้ เส้นใยโปรตีนไหมประกอบด้วยส่วนใหญ่ของไฟโบรอินและผลิตโดยแมลงบางตัวอ่อนในรูปแบบรังไหมไหมที่รู้จักกันเป็นอย่างดีนั้นได้มาจากรังไหมตัวอ่อนของหม่อนไหมBombyx moriเลี้ยงในกรง (หม่อนไหม) ลักษณะของผ้าไหมที่ส่องแสงเป็นผลมาจากโครงสร้างแบบสามเหลี่ยมปริซึมของเส้นใยไหมซึ่งทำให้ผ้าไหมสามารถหักเหแสงที่เข้ามาในมุมต่างๆ จึงผลิตสีที่แตกต่าง ไหมผลิตจากแมลงหลายชนิด แต่โดยทั่วไปมีเพียงไหมของหนอนผีเสื้อกลางคืนเท่านั้นที่ถูกนำมาใช้ในการผลิตสิ่งทอ มีการวิจัยเกี่ยวกับผ้าไหมชนิดอื่นซึ่งมีความแตกต่างกันในระดับโมเลกุล ไหมส่วนใหญ่ผลิตโดยตัวอ่อนของแมลงในช่วงการเปลี่ยนแปลงที่สมบูรณ์แต่แมลงบางชนิดเช่นwebspinnersและcrickets raspyผลิตไหมตลอดชีวิตการผลิตผ้าไหมก็เกิดขึ้นในhymenoptera (ผึ้ง,ตัวต่อ,และมด),ซิลเวอร์ฟิช,เมย์ฟลาย,เพลี้ยไฟ,เพลี้ยจักจั่น,แมลง,แมลงวัน,หมัด,แมลงวันและริ้น ประเภทอื่นๆ ของรพผลิตผ้าไหมที่สะดุดตาที่สุดต่างๆarachnidsเช่นแมงมุมหลายชนิดของผ้าไหมป่าที่ผลิตโดยหนอนผีเสื้ออื่นๆ นอกเหนือจากหม่อนไหมได้รับทราบและปั่นในประเทศจีน,เอเชียใต้และยุโรปมาตั้งแต่สมัยโบราณ อย่างไรก็ตามขนาดของการผลิตนั้นเล็กกว่าผ้าไหมที่ปลูก มีสาเหตุหลายประการ ประการแรกพวกเขาแตกต่างจากพันธุ์ในบ้านในสีและพื้นผิวและมีความสม่ำเสมอน้อยกว่า ประการที่สองรังไหมที่รวมตัวกันในป่ามักจะมีดักแด้โผล่ออกมาจากพวกมันก่อนที่จะถูกค้นพบดังนั้นด้ายไหมที่ทำให้รังไหมถูกฉีกให้สั้นลง และประการที่สามรังไหมป่าจำนวนมากถูกปกคลุมไปด้วยชั้นแร่ที่ป้องกันไม่ให้ความพยายามที่จะหมุนจากเส้นไหมยาว ดังนั้นวิธีเดียวที่จะได้รับผ้าไหมเหมาะสำหรับการปั่นเข้าสิ่งทอในพื้นที่ที่ผ้าไหมในเชิงพาณิชย์ยังไม่ได้รับการปลูกฝังโดยน่าเบื่อและใช้แรงงานเข้มข้นสาง
สนับสนุนบทความโดย Lucaclub88
เว็บ [censored]ออนไลน์ ที่ดีที่สุด
มีการใช้โครงสร้างไหมธรรมชาติบางอย่างโดยไม่ต้องปั่นหรือปั่น ใยแมงมุมถูกนำมาใช้เป็นแผลตกแต่งในกรีกโบราณและโรมและเป็นฐานสำหรับการวาดภาพจากศตวรรษที่ 16 Caterpillar รังวางร่วมกันเพื่อให้ผ้าในอาณาจักรแอซเท็ก ผ้าไหมเชิงพาณิชย์มาจากดักแด้ไหมที่เลี้ยงมาเพื่อผลิตด้ายไหมสีขาวที่ไม่มีแร่ธาตุบนพื้นผิว ดักแด้จะถูกฆ่าโดยการจุ่มในน้ำเดือดก่อนที่ผีเสื้อตัวเต็มวัยจะโผล่ออกมาหรือเจาะด้วยเข็ม ปัจจัยเหล่านี้ล้วนมีส่วนทำให้ความสามารถของรังไหมทั้งหมดถูกปลดปล่อยออกมาเป็นเส้นต่อเนื่องเส้นเดียวทำให้สามารถทอผ้าที่มีความแข็งแรงมากขึ้นจากผ้าไหม ผ้าไหมป่าก็มีแนวโน้มที่จะย้อมยากกว่าผ้าไหมจากหนอนไหม เทคนิคที่รู้จักกันในชื่อdemineralizingทำให้ชั้นแร่รอบรังไหมของผีเสื้อกลางคืนถูกกำจัดออกไปทิ้งความแปรปรวนของสีไว้เพียงเพื่อเป็นอุปสรรคในการสร้างอุตสาหกรรมผ้าไหมเชิงพาณิชย์โดยใช้ผ้าไหมป่าในส่วนต่างๆ ของโลกที่ผีเสื้อกลางคืนป่าไหมเจริญเติบโตเช่นในแอฟริกาและอเมริกาใต้ผ้าไหมผลิตตลอดปีในประเทศไทยโดยหนอนไหมสองชนิดคือ Bombycidae ที่เพาะเลี้ยงและ Saturniidae ป่า ผลผลิตส่วนใหญ่เกิดจากการเก็บเกี่ยวข้าวในภาคใต้และภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ผู้หญิงจะทอผ้าไหมทอมือและส่งผ่านทักษะไปยังลูกสาวของพวกเขาเนื่องจากการทอถือเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นผู้ใหญ่และมีคุณสมบัติเหมาะสมสำหรับการแต่งงาน ผ้าไหมไทยมักใช้ลวดลายที่ซับซ้อนในสีและสไตล์ที่หลากหลาย ภูมิภาคส่วนใหญ่ของประเทศไทยมีผ้าไหมทั่วไปเป็นของตัวเอง ไส้หลอดด้ายเดี่ยวผอมเกินไปที่จะใช้ด้วยตัวเองดังนั้นผู้หญิงจึงรวมหลายหัวข้อเพื่อผลิตเส้นใยที่หนาและใช้งานได้ พวกเขาทำสิ่งนี้โดยใช้มือหมุนด้ายบนแกนหมุนไม้เพื่อผลิตเส้นใยไหมดิบที่สม่ำเสมอ กระบวนการนี้ใช้เวลาประมาณ 40 ชั่วโมงในการผลิตผ้าไหมครึ่งกิโลกรัม การดำเนินงานในท้องถิ่นจำนวนมากใช้เครื่องม้วนสำหรับงานนี้ แต่เส้นไหมบางเส้นยังคงหมุนด้วยมือ ข้อแตกต่างคือด้ายที่มีการหมุนด้วยมือจะผลิตผ้าไหมสามระดับ สองเกรดที่เหมาะสำหรับผ้าที่มีน้ำหนักเบาและเกรดหนาสำหรับวัสดุที่หนักกว่า ผ้าไหมถูกแช่ในน้ำเย็นจัดและฟอกขาวก่อนที่จะทำการย้อมเพื่อขจัดสีเหลืองตามธรรมชาติของเส้นด้ายไหมไทย การทำเช่นนี้หลอดด้ายผ้าไหมแช่ในอ่างน้ำขนาดใหญ่ของไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ เมื่อซักแล้วตากให้แห้งผ้าไหมจะถูกทอบนเครื่องทอผ้าด้วยมือแบบดั้งเดิม
